30 ก.ค. 2554

โลกสวยที่เขาสก @สุราษฎร์ธานี

การเดินทางเริ่มต้นที่ท่าเทียบเรือของอุทยานแห่งชาติเขาสกซึ่งตั้งอยู่ในเขื่อนรัชประภาไปสู่ที่พักแพนางไพร ในอุทยานฯใช้เวลาประมาณ 45 นาทีเรือวิ่งออกไปสู่พื้นน้ำขนาดใหญ่เขามึนทอดตัวว่างแนวขนาบทแยงยอดขึ้นไปตามลักษณะของเขาหินปูนซ้อนทับลดหลั่นเวิ้งน้ำอันกว้างใหญ่เหมือนเรือวิ่งอยู่กลางทะเล แลเป็นเวลาย่ำเย็นพอดีที่เดินทางมาถึงค่ำคืนที่พักผ่อนบนแพนางไพรที่โยกไหวตามกระแสน้ำเป็นเสมือนชีวิตหนึ่งที่ถูกโอบอุ้มด้วยธรรมชาติแสงแรกของอาทิตย์โผล่พ้นผ่านม่านเมฆไปสู่ผาและทอดตัวลงสู่พื้นน้ำ ป่าอุดมสมบูรณ์ แผ่นดินชอุ่มเขียว หมอกลอยเกลื่อนแผ่ปกคลุมไปทั่วขุนเขาและแนบชิดติดผิวน้ำนกเงือกหลายคู่บินมาเกากิ่งไทรข้างที่พักขนาดที่ชะนีฝูงใหญ่ต่างปีนป่ายขึ้นมาหาอาหาร สายแล้วเสียงนกเงือกและฝูงชะนีหลังที่พักยังส่งเสียงโหยหวนอยู่ตลอดเวลาอาหารเช้าบนแพนาไพรท่ามกลางภูเขาโอบล้อมสายหมอกล่องลอยเฉียดไปมาบนยอดเขานั้นเป็นภาพราวกับฝัน ขณะที่แสงแดดอันอ่อนละมุน อากาศกำลังเย็นสบาย ทำให้หลายคนอดใจไม่ไหวที่จะกระโดดลงเล่นน้ำอันใสสะอาดหน้าเรือนแพอย่างสนุกสนาน

กิจกรรมในช่วงเช้าที่น่าสนใจที่สุดอย่างหนึ่งก็คือ การล่องเรือเพื่อชมทิวทัศน์ในเขตอุทยานฯ ซึ่งมีเนื้อที่ถึง461,721.5 ไร่ ที่เป็นป่ารอยต่อกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองแสงและเขื่อนรัชชประภา ซึ่งเป็นเขื่อนขนาดใหญ่ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ไม่ว่าจะมองไปในทิศทางใด ล้วนเป็นความงามของธรรมชาติที่สร้างสรรค์มาอย่างแปลกตา บางมุมเป็นความสงบงามของผืนน้ำและม่านหมอก บางมุมแสงอาทิตย์สาดลงบนผิวน้ำและแผ่นผาจนเกิดมิติในความลึกล้ำ บางเกาะแก่งบ่งบอกความสมบูรณ์ของพืชพันธุ์ที่คล้ายถูกห่อหุ้มด้วยผืนผ้าสีเขียว ขุนเขาบางลูกคล้ายถูกตัดซีกด้วยของมีคมผ่าขาด ภูมิประเทศทีมีความหลากหลายของธรรมชาติถูกหลอมรวมเข้าไว้ด้วยกันไม่ว่าเป็นสภาพพื้นที่ สัตว์ป่าที่หายากและอยู่ในภาวะใกล้สูญพันธุ์หลายชนิด เช่น นกเงือก ค่างแว่น เลียงผา ช้าง และสัตว์ต่างๆที่เป็นสัตว์เฉพาะถิ่นที่อาศัยอยู่ นอกจากนั้น พืชพันธุ์ที่มีคุณค่ามหาศาลและหายากบางชนิด เช่น หญ้ารังไก่ ปาล์มหลังขาว หรือบางชนิดที่สามารถนำไปใช้ทำสมุนไพรรักษาโรคอีกนานาชนิด ไม่ว่าจะเป็นกระเช้าสีดา สายพันธุ์ต่างๆ ดอกบัวผุด(Rafflesia kerrii) ซึ่งเป็นพันธุ์ไม้ที่มีดอกใหญ่ทีสุดในโลก เป็นพืชเบียนหรือ พืชกาฝาก

ตกบ่ายรายการที่เป็นจุดหมายปลายทางต่อไป คือ ถ้ำน้ำทะลุ ด้วยระยะทางไม่ไกลมากนัก อยู่ใกล้กับ แพโตนเตย เรือพาลัดเลาะย้อนขึ้นไปตามลำน้ำไปได้เกือบถึงถ้ำอย่างช้าๆบรรยากาศสองข้างลำน้ำทำให้นึกถึงหนังเรื่อง ANACONDA เมื่อเรือมาถึงจุดที่ต้องเริ่มต้นเดินเท้าไปตามป่า ก็ต้องประหลาดใจเมื่อเมื่อได้เห็น เต่าปูลู ที่หลายคนนึกว่าจะพบเห็นได้เฉพาะตามภู ในพื้นที่แถบอีสานเท่านั้น
ระหว่างการเดินทางเดินป่าจะพบเห็นพืชพรรณไม้ต่างๆดูแปลกตามากมายหลายชนิด ล้วนแต่ไม่เคยพบเห็นในป่าแห่งอื่นๆรอยเท้าช้างขนาดใหญ่มีให้เห็นทั่วไป โป่งผีเสื้อนับหมื่นตัวช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้บรรยากาศป่า ความเขียวครื้มของร่มไม้ในป่าตามลำธาร ที่เจ้าหน้าที่บอกว่าน้ำได้ไหลออกจากถ้ำน้ำทะลุ ยิ่งชวนให้อยากเข้าไปสัมผัสด้วยตัวเอง เดินไปชั่วโมงเศษก็มาถึงยังด้านหลังถ้ำ ที่มีน้ำไหลออกมาจากถ้ำดังกึ่งก้อง ตามแอ่งน้ำจะมีสีออกเป็นมรกตสวยงาม เนื่องจากสภาพน้ำมีระดับสูงมากเกิน จึงไม่สามารถเข้าไปในถ้ำด้านหน้าได้ การเดินทางจึงมาสิ้นสุดกันที่นี่
การมาสัมผัสสถานที่ทั่วถึง ควรมีเวลาอย่างน้อย 3-5วันแต่เวลาอันน้อยนิดที่ได้มาตักตวงความสุขจากการท่องธรรมชาติในป่าเขาสกคือความประทับใจไว้ในความทรงจำว่าวันหนึ่งข้างหน้าจะได้กลับมาชื่นชมในส่วนอื่นๆของป่าเขาสก และมานอนนับดาวบนเรือนแพนางไพรต่อไป

แหล่งท่องเที่ยวในอุทยานฯ
1.น้ำตกโตนกลอย เป็นน้ำตกชั้นเดียวเกิดจากลำคลองสก มีลานพักผ่อนอยู่บนน้ำตก อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯประมาณ 9 กิโลเมตร
2.ตั้งนำ มีลักษณะเป็นภูเขาที่ถูน้ำกัดเซาะจนกลายเป็นหน้าผาหันหน้าเข้าหากัน มีลำคลองสกลอดผ่าน เบื้องล่างเป็นวังน้ำลึกมาก มีปลาชุกชุม ห่างจากที่ทำการอุทยานฯประมาณ 6 กิโลเมตร
3.น้ำตกธารสวรรค์ เกิดจากห้วยบางพลู ซึ่งไหลลงสู่ลำคลองสก น้ำตกพุ้งโค้งคล้ายรุ้งน้ำ ห่างจากที่ทำการอุทยานฯประมาณ 9 กิโลเมตร
4.น้ำตกบางเลียบน้ำ อยู่บนคลองสก
5.บัวผุด เป็นพันธุ์ไม้ที่มีดอกไม้ที่มีดอกใหญ่ที่สุดในโลกเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 80 เซนติเมตร เป็นพืชกาฝากเกาะกินรากไม้ชื่อว่า ย่านไก้ต้ม กลีบดอกมี 5กลีบ มีสีน้ำตาลแดง ออกดอกปลายหน้าฝน (ตุลาคม) ที่ทำการอุทยานฯประมาณ 3.5 กิโลเมตร
6.วังยาว ธารน้ำอยู่บนคลองสก
7.น้ำตกบางหัวแรด เป็นน้ำตกสองชั้นที่สวยงาม แต่ไม่สูงมาก ชั้นแรกไหลจากห้วยบางหัวแรด ลงสู่คลองสก ชั้นที่ 2 อยู่ในคลองสก ห่างลงมาประมาณ 120 เมตรมีน้ำตกวิ่งหินไหลลงมาบรรจบเหนือขึ้นไป 80 เมตร มีวังสำหรับเล่นน้ำเรียกว่า วังยาว
8.น้ำตกสิบเอ็ดชั้น เป็นน้ำตกที่เกิดจากคลองบางเลน สาขาของคลองสก ไหลตกลงมาเป็นชั้นๆรูปขั้นบันไดสิบเอ็ดชั้น ชั้นล่างสุดมีวังสำหรับเล่นน้ำ มีหินวางเรียงรายเหมาะสำหรับการพักผ่อน ห่างจากที่ทำการอุทยานฯประมาณ 4กิโลเมตร

ข้อมูลการเดินทาง
ทางเครื่องบิน : การบินไทยมีเที่ยวบินกรุงเทพฯ-สุราษฎร์ธานี ทุกวัน
ทางรถไฟ: สถานีรถไฟสายใต้มีรถไฟสายใต้จากกรุงเทพทุกวัน
ทางรถประจำทาง: สถานีขนส่งสายใต้มีรถกรุงเทพถึงสุราษฎณ์ธานี
จากสุราษฎณ์ธานี เดินทางไปตามเส้นทางสุราษฎณ์ธานี-ตะกั่วป่า สาย 401 กิโลเมตรที่109 ถึงทางเข้าอุทยานแห่งชาติเขาสก จากนั้นถึงทางแยกเช้าเข้าเขื่อนรัชชประภา ระหว่างกิโลเมตรที่ 57-58 ที่อำเภอบ้านตาขุนไปตามถนนลาดยางประมาณ 14กิโลเมตรก็จะถึงหน่วยพิทักษ์อุทยาน ขส. 2 และที่นั่งเรือต่อไปยังหน่วยพิทักษ์อุทยาน ขส.3 “แพนางไพร” โดยที่หน่วยจะมีบ้านพักทั้งหมด 6หลัง จุได้ 56 คน สามารถสั่งอาหารบนแพได้หรือจะนั่งเรือต่อไปยังหน่วย ขส. 4 “แพโตนเตย” ก็มีที่พักเช่นกัน  
โดยสอบถามไปยังส่วนอุทยานแห่งชาติ สำนักอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ กรมป่าไม้ เขตจตุจัก กรุงเทพ 10900 โทรศัพท์ 579-4842, 579- 0529 หรือจะติดต่อโดยตรงที่หน่วยพิทักษ์ แก่งเชี่ยวหลาน เขื่อนรัชชประภาโทรศัพท์ (077)240740-5715

1 ความคิดเห็น: