ร้านอาหาร บ้านกลางน้ำ 2 เพื่อคอซีฟู้ด

อาหารที่เหมาะกับนักชิมตัวยงร้านอาหาร บ้านกลางน้ำ 2 ซึ่งตั้งอยู่ที่ บางกอกสแควร์ ตลาดจตุจักร-พระรามสาม ใครที่ชอบ กุ้ง หอย ปู ปลา คงจะพลาดไม่ได้กับร้านอาหารแห่งนี้ เพราะด้วยน้ำจิ้มทะเลสูตรเด็ด รวมทั้งวัตถุดิบชั้นเลิศไม่ว่าจะเป็น หอยหลอดไซต์ใหญ่พิเศษ ปลาคัง กุ้งแม่น้ำที่สั่งตรงมาจาก กาษจนบุรี ทำให้อาหารสดสะอาดไม่เหมือนใคร ไม่แปลกใจเลยที่ร้านนี้จะคิวแน่นเอี๊ยดทุกวัน ราคาก็ไม่ได้แพงมากมายราคาเริ่มต้นเพียงจานละ 35 บาทเท่านั้น นอกจากอาหารจะอร่อยสุดฤทธิ์แล้ว บรรยากาศก็ดีไม่แพ้ๆใคร

สนใจสั่งจองโต๊ะล่วงหน้าได้ที่เบอร์ 02-6827180 หรือ 02-6827186 เปิดบริการทุกวัน 11.00-23.00 นะครับ

ร้าน กิวกิวเต้ สวรรค์ของคนชอบกินเนื้อย่าง หมูย่าง

ร้าน กิว กิว เต้ ตั้งอยู่ที่ถนนพระราม 3 อยู่เยื้องๆวัดดอกไม้ ก่อนถึง BRT สถานีวัดดอกไม้ เปิดให้บริการทุกวันนยัน 23.00 น.นะครับ ณ ร้าน กิวกิวเต้ แห่งนี้ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา มีทั้งเนื้อวัวและเนื้อหมูจากญี่ปุ่นมาให้เลือกสรรมากมาย ด้วยคุณภาพการันตีด้วยการเปิดร้านมานานมากกว่า 8 ปี และพระเอกของร้านนี้คือ เนื้อ มัตซึซะกะ ที่ให้ความนุ่มลิ้น อร่อยเหาะเลยก็ว่าได้ หรือถ้าใครไม่ทานเนื้อลอง สั่งหมูดำมาทาน ซึ่งถือเป็นเนื้อหมูคุณภาพสูงจากแดนซากุระ เมื่อได้สัมผัสกับน้ำจิ้มรสเด็ด ขอบอกว่า อร่อยจนลืมตาย ไปเลย และที่สำคัญทางร้านใช้เตาปิ้งแบบไร้ควัน ทำให้ไม่ต้องกลัวหรือพะวงหรือว่าหัวเหม็นนะครับ

ร้านกาแฟดีเลิศ ร้านกาแฟบรรยากาศดีย่านคลองบางหลวง

ร้านกาแฟดีเลิศ ตั้งอยู่ที่คลองบางหลวง เลยลานจอดรถยนต์วัดคูหาสวรรค์ไปนิดหน่อยใกล้สะพานข้ามคลองฝั่งจรัญ ซอยสาม หาไม่ยากลองถามคนแถวนั้นดูได้หรือโทรถามทางได้ที่ 085-071-2513 เปิดให้บริการทุกวัน

ใครที่กำลังมองหาร้านกาแฟแจ่มๆ หรือหาที่นั่งจิบกาแฟสังสรรค์กับคนรักหรือเพื่อนๆ ร้านกาแฟดีเลิศ ก็เป็นอีกที่ที่ 9Thailand จะมาแนะนำในวันนี้ ร้านกาแฟดีเลิศ ตั้งอยู่แถวคลองบางหลวง ร้านตกแต่งได้เก๋ไก๋มาก ซึ่งเหมือนย้อนยุคไปช่วงจิ๊กโก๋หลังวัง ที่คุณและเพื่อนๆจะสามารถถ่ายรูปเก็บความประทับใจได้อย่างเมามันส์ รวมทั้งของใช้ย้อนยุคที่เจ้าของร้านสุดหวงนำมาตกแต่งร้านได้อย่างลงตัว นอกจากที่นี้จะมีกาแฟแสนอร่อยแล้วยังมีเครื่องดื่มอื่นๆ เช่นสมูททตี้ผลไม้ รวมทั้งขนมปังปิ้้ง นึ่งรสชาติต่างๆ โดยเมนูที่แนะนำคือ บ๊วยมะนาวปั่น กาแฟ ชาเขียวปั่น ฯลฯ ลองไปชิมดูนะครับ

ร้านอาหาร Princess Terrace Pub&Restaurant

ร้านอาหาร Princess Terrace Pub&Restaurant เป็นร้านอาหารที่ตกแต่งได้สวยงามมาก การตกแต่งที่หรูหราทันสมัย ช่างเป็นร้านอาหารที่เหมาะกับคนหัวใจอินเทรนด์ โทนสีเข้มที่ใช้ตกแต่งร้าน ที่ให้ความเคร่งขรึมและทันสมัยในเวลาเดียวกัน และอาหารก็มีให้เลือกหลากหลาย หลายชาติเช่น อาหารไทย อาหารญี่ปุ่น อาหารอิตาลี และอาหารทุกชาติที่คุณต้องการ พร้อมทั้งเครื่องดื่มและไวน์จากทั่วทุกมุมโลก ด้วยบรรยากาศริมน้ำแบบนี้ใครที่กำลังมองหาร้านอาหารที่ต้องการไปสวีทหวานแหววกับคนรัก ร้านนี้ก็เป็นอีกร้านที่แนะนำ

สำหรับเมนูแนะนำได้แก่ สลัดปูนิ่มทอด แม็กซิกันบาร์บีคิว และปลาเก๋าโบราณ ฯลฯ อีกมากมาย 
การเดินทางไป ร้านอาหาร Princess Terrace Pub&Restaurant
ลงสะพานตากสินแล้วเลี้ยวขวา เข้าถนนเจริญนคร ซอย 21 หรือจากสะพานกรุงเทพฯ ลงมาแล้วเลี้ยวขวา โทร. 0-2860-3700 เปิดทุกวัน 17.00-01.00 น.

ร้านอาหาร Sortrel’s Cottage

ร้านอาหาร Sortrel’s Cottage สถานที่ท่องเที่ยว รูปแบบร้านอาหารสไตล์กระท่อมอังกฤษ พร้อมทั้งลานกว้างพร้อมดนตรีอคูสติคที่ทำให้เพลิดเพลิน อีกทั้งยังมีคาราโอเกะที่มีเพลงใหม่อัพเดตตลอดเวลา จะมากับกลุ่มเพื่อก็คงจะมันส์ไม่เบา อีกทั้งยังมีชั้นดาดฟ้าเพื่อชมดาวและชมวิวของแม่น้ำเจ้าพระยาก็โรแมนติคไปอีกแบบ เมนูแนะก็มี หมึกเฟรนซ์ฟราย และไก่รวนเหล้า ที่รสชาติน่าลิ้มลอง นอกจากมีเมนูแสนอร่อยแล้วยังสามารถวาดรูประบายสีโชว์ความติสต์ของแต่ละคนได้ตามต้องการ

ร้านอาหาร Sortrel’s Cottage อยู่ถนนพระราม 3 ใกล้สวนสาธารณะ ใต้สะพานพระราม 9 โทร.02-2913488 เปิดบริการทุกวันตั้งแต่ 16.30 – 01.00 น.

สถานที่ท่องเที่ยว ตลาดน้ำคลองบางหลวง

ไม่ต้องหาเครื่องเดินทางย้อนเวลา แต่คุณสามารถย้อนเวลาหาอดีต ได้ที่ สถานที่ท่องเที่ยว คลองบางหลวง ซึ่งอยู่ที่เขต ภาษีเจริญ เข้าทางซอยจรัญสนิทวงศ์ ซอยสามแล้วเดินข้ามคลอง เปิดทุกวัน 10.00 – 18.00 น. 

ตลาดน้ำคลองบางหลวงแห่งนี้เต็มไปด้วยวิถีชีวิตที่เรียบง่าย สงบ สะอาดสะอ้าน  และเต็มไปด้วย ไอเดียงานศิลปะ บ้านไม้สองฝั่งคลอง มีร้านค้าไม่มาก แต่ละร้านมีความน่าสนใจเกินร้อย โดยจุดเด่นอยู่ที่บ้านศิลปิน บ้านไม้สองชั้น ทรงมะนิลา อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของวันวาน และวิถีชีวิตของชาวบ้าน อีกทั้งยังมีลานพระเจดีย์สมัยอยุทธยาตั้งเด่นอยู่ด้านใน แถมมีการแสดงหุ่นละครเล็กของคลองบางหลวง หิวๆ ก็มีร้านอาหารร้านกาแฟ ย้อนยุคให้บริการ สนใจทำภาพพิมพ์หรือหน้ากาก ก็สามารถทำได้ ชั้นสองของบ้านศิลปินก็เป็นแกลอรี่แสดงภาพถ่ายและภาพเขียน

ใกล้ๆกันก็มีร้าน ศ.จิตรกร ที่รับวาดภาพเหมือน ริมคลองแกลอรี่ แสดงภาพถ่ายของ Francis Shit ช่างภาพรุ่นแรกๆของสยามประเทศ บ้านเรา หรือถ้าใครไม่รีบก็เดินเล่น กินน้ำ ให้อาหารปลาดุกก็ถือว่าเป็นวันพักผ่อนสบายๆที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ

สถานที่ท่องเที่ยว ตลาดน้ำคลองลัดมะยม

สถานที่ท่องเที่ยว ตลาดน้ำคลองลัดมะยม - ตลาดน้ำบรรยากาศดี อวดความงดงามตามวิถีชีวิตชุมชนริมน้ำ สัมผัสสายลมเย็นๆ อมยิ้มกับพ่อค้าแม่ค้า บันเทิงกระเพาะกับอาหารคาวหวานมากมาย ไม่ว่าจะเป็นอาหารตำรับเก่าก่อนหรืออาหารที่ปรับตามยุคสมัยดิจิตอล ไม่ว่าจะเป็น ยำส้มโอ ล่าเตียง แหนมสด หมูย่าง ปลาช่อนเผา หรือแม้กระทั่งกาแฟเอสเฟรสโซ ก็เด็ดๆกันทั้งนั้น ใครอยากใช้ชีวิตแบบช้าๆ โบกเรือแจว พายเงียบๆไปชมนาบัวชูช่อให้เห็นสวยงามสะพัด หรือ อาจลงเรือเครื่อง แล่นฉิวไปจนถึงสวนผลไม้ รวมถึงไปป้อนหญ้าให้เจ้าทุยและยังมีกิจกรรมอีกสารพัด ที่ตลาดคลองมะยมแห่งนี้ เล่าไปก็เท่านั้น ไปลองเที่ยวเองจะดีกว่า

ตลาดน้ำคลองลัดมะยม ขับไปตามถนนบรมราชชนนี แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนกาญจนาภิเษก ผ่านปั๊มเอสโซ่เลยนิดนึง จะพบป้ายทางเขข้าไปตลาดคลองมะยม เปิดวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 09.00-17.30 น. นะจ๊ะ

ปลาบุรี ริเวอร์ไซด์ ร้านอาหารริมน้ำ

ปลาบุรี ริเวอร์ไซด์ ร้านอาหารริมน้ำ

ปลาบุรี ริเวอร์ไซด์ ตั้งอยู่ ถนนพระราม 3 อยู่ถัดวัดปริวาส ไปประมาณ 100 เมตร โทร. 087-7185809 เปิดบริการทุกวัน 17.00-24.00 น.

ด้วยร้านอาหารสไตล์ชิลๆแบบริมทะเล มีดนตรีสดบรรเลงทุกคืน ช่วยชาร์ตแบตจากความเมื่อยล้าในการทำงานได้เป็นอย่างดี และอาหารซีฟู้ดที่ขึ้นชื่อว่าสดไม่แพ้ใคร ต้องขอแนะนำ ปลากะพงสมุนไพร ที่เคี่ยวเครื่องปรุงต่างๆ จนข้น แล้วค่อยคลุกเคล้ากับปลากะพงที่หั่นเป็นชิ้นซึมซาบจนเข้าเนื้อ และยังมี โป๊ะแตกทะเลเดือด ทั้งปู กุ้ง หมึก รสเด็ดอย่าบอกใคร ส่วนอีกเมนูชื่อแปลก "ขออีกจาน" เป็นกับแกล้มชั้นดีให้หนุ่มๆเพราะเต็มไปด้วยถั่วและขนมขบเคี้ยว ใครอยากชมพระอาทิตย์ยามเย็น ต้องมาไวๆ เพราะลูกค้าเยอะนะครับ

ร้านมังคุดคาเฟ่ by Club Arts (Gallery by the river)

ร้านอาหารอีกร้านในกรุงเทพ ราวกับเป็นจุดนัดพบของคนที่ชื่นชอบงานศิลปะ ละเมียดละไมร่วมสมัย ระหว่างการเดินทางไปยังโต๊ะริมแม่น้ำ ก็ได้ชมงานศิลปะสวยๆ ก่อนได้เติมเต็มและลิ้มลองอาหาร ด้วยเมนูที่สร้างสรรค์เป็นพิเศษ นำผักและผลไม้จากสวนมาเป็นวัตถุดิบ อย่างเช่น เมี่ยงคะน้า เครื่องเคราตระเตรียมตามสูตรชาววังเคี่ยวน้ำเมี่ยงจนแห้งจับเป็นก้อน วางบนกลีบกุหลาบ รองด้วยใบคะน้าตัดเป็นวงกลม อีกเมนู คือผัดไทยล้านนา นำข้าวซอยไปทอดกรอบ วางลงบนเครื่องผัดไทย สวยงามน่าลิ้มลอง ไม่เว้นแม้แต่ของว่างบางอย่าง เช่น ปลาแห้งแตงโมก็นำมาจับคู่กับข้าวเหนียวมูน ซึ่งเก๋ไก ขอปรบมือชื่นชมจริงๆ

การเดินทาง มาร้านมังคุดคาเฟ่ by Club Arts (Gallery by the river)
อรุณอมรินทร์ 18 ซ.วัดระฆัง เลย ร.ร สตรีวัดระฆังไปนิดหน่อย โทร 081-8431598,02-8662143
เปิด อังคาร-พฤหัสบดี 10.30น. – 23.00 น. ส่วนเสาร์อาทิตย์ปิดเที่ยงคืนนะครับ

เมนูแนะนำ ผัดไทยล้านนา เมี่ยงคะน้ ฉุนฉายในสวนดอกไม้ ก๋วยเตี๋ยวหลอดทรงเครื่อง ปลาแห้งแตงโม

กินมาแล้ว โค ซิ แร หมูเกาหลี @ทองหล่อ

สวัสดีค่ะวันนี้ได้กับมาแวะเวียนในท่องเที่ยวทั่วไทยอีกครั้งรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมาก (หลังจากเคยแวะเวียนในการเขียนเรื่อง ร้านอาหารเพื่อนทะเล) บังเอิญว่าเมื่อหลายวันที่ผ่านมาคุณผู้ชายได้มีโอกาสแวะมาประชุมที่กรุงเทพ และด้วยความที่อยากพาคุณผู้ชายหาลองอาหารที่ไม่คุ้นเคยและสะดวกในการเดินทาง จึงเริ่มนัดแนะแถวทองหล่อ และไม่รอช้าเข้าเว็บเพื่อหาร้านอาหารอร่อยตามเคยค่ะ เจอร้านอาหารสไตล์เกาหลีชื่อร้าน โค ซิ แร

พอตกเย็นรีบออกเดินทางค่ะโดยอาศัย BTS ลงสถานีทองหล่อ และเข้าซอยสุขุมวิท 55 เดินทางไม่ถึง 50 เมตรจากปากซอย ร้านอยู่ฝั่ง ขวามือจะเห็นป้ายบอกทางเข้า (ลืมบอกค่ะว่าร้านนี้เคยออกรายการเปรี้ยวปากอยากชิม) พอเจอป้ายร้านรีบเข้าไปเลยค่ะ เป็นร้านหมูย่างเกาหลี (ร้านนี้มีแต่หมูนะค่ะ ) บุฟเฟ่ต์ ราคาเพียง 290 บาทเท่านั้น (รวม vat แล้วไม่ชาร์ตเพิ่มหากไม่สั่งนอกเหนือจากรายการบุฟเฟ่ต์) ทุกอย่างขอเติมไม่อั้นโดยจะมี หมูหมักและไม่หมัก ทั้งหมด 4 แบบค่ะ เช่นเป็นแบบเบคอนหมัก เนื้อติดซี่โครง สามชั้น และแบบธรรมดา เป็นต้น (ต้องขอบอกทีเด็ดอยู่ที่ซอสหมักค่ะเพราะ เนื้อหมูจะมีรสหวานๆเหมือนหมูปิ้ง) พร้อมเครื่องเคียงอีกประมาณ 8 อย่าง เช่น เต้าเจียวหมักรสออกเค็มๆมันๆ หองแครงลวกราดน้ำจิ้มแกะให้พร้อมทาน ยำผักรวมอร่อยได้รสชาติผักสด กิมจิอร่อยลงตัวไม่ขม ไข่พะโล้แห้งๆแต่ได้รส ยำลูกชิ้น ผัดผักโขมน้ำมันงาเพื่อสุขภาพ สลัดผลไม้กล้วยหอม (รสชาติกลมกล่อมหวานๆและหอมกลิ่นกล้วย แก้เลียนได้เยอะเลยค่ะ) ผักสลัดไว้ห่อ ทำให้การทานครั้งนี้เป็นการทานแบบรักสุขภาพขึ้นมาทันที แถมบริการแบบประทับใจสุดๆ คือการเปลี่ยนตะแกรงที่ปิ้งทุกเกือบ 15 นาที ไม่ยอมให้เนื้อเราไหม้เลยล่ะ (มีป้ายติดไว้หากปิ้งจนเนื้อไหม้คิดเพิ่ม 200 บาท แหมใครจะยอมล่ะนั้น) และบรรยากาศสไตล์เกาหลีสุดๆ ดูได้จากตะเกียบยังเป็นสแตนเลส เกือบลืมบอกค่ะมีบุฟเฟ่ต์เฉพาะวัน จันทร์-ศุกร์ เท่านั้นนะค่ะ วันเสาร์-อาทิตย์ ไปอดกินไม่รู้ด้วยนะ หากใครสนใจบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างสไตล์เกาหลีอย่าลืมแวะไปชิมนะค่ะ งานนี้คุ้มสุดคุ้มค่ะ