ในอาทิตย์ที่ผ่านมาได้มีโอกาสไปเที่ยวที่เชียงคาน จังหวัดเลย สถานที่ท่องเที่ยวที่ได้ชื่อว่า เป็นเมืองโบราณ เต็มไปด้วยรอยยิ้ม มิตรภาพและน้ำใจ ด้วยลักษณะที่เฉพาะตัวที่นั่งท่องเที่ยวหลายๆคนประทับใจและอยากกลับไปอีกครั้ง แต่หลายๆคนที่เข้าใจผิดที่คิดว่าเชียงคานจะมีที่พักที่สะดวกสบายเหมือนที่อื่นๆนั้น ท่านคิดผิด เพราะโดยส่วนมากที่พักในอำเภอเชียงคานจะเป็นบ้าน ที่แบ่งห้องให้พักห้องน้ำก็ไม่เป็นส่วนตัวต้องใช้ร่วมกับผู้อื่น บางที่ไม่มีเตียงนอนต้องนอนฟูกกับพื้น แต่สำหรับผู้ที่มีรถส่วนตัวแนะนำให้ไปพักที่รีสอร์ทบริเวณแก่งคุดคู้จะสะดวกกว่า ดังนั้นผู้ที่คิดจะไปเที่ยวที่เชียงคานต้องเตรียมทั้งตัวและใจคือ เตรียมตัวให้พร้อมที่จะท่องเที่ยว และเตรียมใจที่พร้อมจะรับความลำบาก คนที่จะไปเที่ยวเชียงคานต้องเป็นคนที่ติดดิน กินง่ายอยู่ง่าย แล้วจะสนุกกับการท่องเที่ยวที่นี้
แต่ว่าในอนาคตผมคิดว่าที่เชียงคานแห่งนี้น่าจะมีห้องพักสมัยใหม่ เป็นตึกปูนเกิดขึ้นอย่างมากมายแน่นอน แล้วความเป็นเมืองโบราณก็จะค่อยๆเลือนหายไป ตัวอย่างเช่น อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ที่เดี๋ยวนี้มองไปทางไหน ก็เต็มไปด้วยสถานบันเทิง ซึ่งถูกกลืนกินไปด้วยเทคโนโลยีและความสะดวกสบาย โดยผู้ที่เข้าไปลงทุนก็มิใช่คนในพื้นที่แต่อย่างใด มีแต่นายทุนจากกรุงเทพฯและจังหวัดอื่นๆ ที่เข้าไปลงทุนทั้งนั้น...
กลับมาที่เชียงคาน ผมอยากให้เชียงคานยังรักษาความเป็นเชียงคานไว้ อย่าตามกระแส ขณะที่ผมไปเที่ยวพบว่ามีการประกาศขายที่ดิน 3-4 แปลง ซึ่งมีราคาสูงพอๆกลับที่ในเมืองหลวง (อดสงสัยไม่ได้ว่า...ขายทำไม?)
อีกอย่างที่พบคือธุรกิจ สามล้อรับจ้าง จักรยานให้เช่า จักรยานยนต์ให้เช่า ก็มีมากมาย ซึ่งบางคนเห็นแต่ผลกำไร ไม่คำนึงถึงการให้บริการและนักท่องเที่ยวเป็นสำคัญ ตัวอย่างที่พบด้วยตัวเองคือ สามล้อรับจ้าง ผมให้ช่วยพาไปหาที่พัก จากศรีเชียงคานซอย 0 ถึงซอยศรีเชียงคานซอย 6 คิดเงินผม 50 บาท ซึ่งผมคิดว่าราคาค่อนข้างสูง เพราะมันไม่ได้ไกลกันมาก ผมจึงตัดสินใจลงจากสามล้อรับจ้างเพื่อเช่าจักรยาน ในการหาห้องพักต่อ เช่าจักรยาน 50 บาท ขี่ออกมาสักพักไม่ถึง 5นาทียางรั่ว เราเอาจักรยานไปคืนเพื่อขอเปลี่ยนคัน แต่ปรากฏว่ามีคนเช่าไปหมดแล้ว เลยจะขอเงินคืนเพื่อไปเช่าที่ใหม่ แต่ปรากฏว่าไม่ให้คืนเนื่องจากผมทำยางรถเขารั่ว.... เอาละมาเช่าจักรยานยนต์ 200 บาท หวังว่าจะดีขึ้นแต่ปรากฎว่าไม่มีน้ำมัน ต้องเติมน้ำมันเองอีก 50 บาท...สรุปว่าผมซวยใช่ไหมเนี่ย...
สุดท้ายนี้...ขอตำหนิการให้บริการของบริษัทอีสานทัวร์ อย่างยิ่ง เรื่องมีอยู่ว่า ผมขึ้นรถอีสานทัวร์ ป.2 เมืองเลย ขอนแก่นเลขข้างรถ 217-10 ในวันที่ 19/2/54 เวลา11.00 น. พอไปถึงชุมแพผมจะลงไปเข้าห้องน้ำเพราะอั้นฉี่มานานแล้ว ผมเดินไปบอกโชเฟอร์ว่า ไปเข้าห้องน้ำแปบนึงนะพี่ โชเฟอร์ ตอบกลับมาด้วยสีหน้าไม่พอใจ ”รถจะออกแล้ว ไม่รอนะ” ไอ้ผมนี่อึ้งเลย เอาวะมองโลกในแง่ดี อีกชั่วโมงก็ถึงขอนแก่น สงสัยเขาจะรีบ แต่ไม่เป็นอย่างที่คิด พอไปถึง อ.หนองเรือ มีรถขายไส้กรอกย่างข้างทาง ปรากฏว่าโชเฟอร์รถ จอดรถและใช้เด็กที่เก็บเงินค่าโดยสารลงไปซื้อซึ่งจอดรถเกือบสิบนาที โดยไม่ได้สนใจผู้โดยสาร หากทางผู้บริหารมีจิตสำนึกท่านคงไม่ปล่อยให้เรื่องนี้เลยตามเลย เพราะถ้าท่านเพิกเฉยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผมคาดว่าในอนาคต บริษัทฯของท่านคงจะต้องเปลี่ยนชื่อเป็น “อี...ทัวร์”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น